เชื่อเลยว่าใครหลายคนที่ไปต่างประเทศบ่อย ๆ หรือต้องสื่อสารกับชาวต่างชาติในภาษาที่ไม่คุ้นเคย
ต่างก็มีเรื่องกังวลเกี่ยวกับการสื่อสารทั้งนั้น แต่ถ้าหากมี เครื่องแปลภาษา ที่สามารถแปลภาษาได้ทั่วโลกกว่า 108 ภาษา
เรื่องการสื่อสารจะหมดความกังวลไปอย่างแน่นอน และที่สำคัญก็ยังทำให้บรรยากาศการสื่อสารเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นด้วย
นับว่าเป็น 1 ไอเทมที่ควรมีไว้พกติดตัวตลอดเวลา
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่า เจ้า เครื่องแปลภาษา รุ่นนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง
และเมื่อรู้แล้วทุกคนจะเข้าใจเลยว่าทำไมถึงต้องพกเครื่องติดตัวกันไว้คนละเครื่องไปดูพร้อม ๆ กันเลย
ทีเด็ดของเครื่องนี้ คือ การที่เราพูดประโยคเป็นภาษาไทยปุ๊บ ตัวเครื่องก็จะมีการพูดภาษาต่างชาติที่เราได้ทำการเลือกไว้ปั๊บแบบเรียลไทม์
ยกตัวอย่างเช่น เราพูดคำว่า “สวัสดี” และเลือกภาษาปลายทางเป็นประเทศญี่ปุ่น เจ้าเครื่องนี้ก็จะตอบว่า “โอฮาโยโกไซมัส”
ซึ่งจุดนี้เองจะทำให้การสื่อสารมีความต่อเนื่องและไม่ขาดตอน
เจ้าเครื่องนี้จะสามารถแปลภาษาได้กว่า 108 ภาษาจากทั่วทุกมุมโลก ถ้าหากเรารู้ว่าคู่สนทนาตรงหน้าเราคือใคร
ก็สามารถปรับภาษาปลายทางได้โดยการเลือก “ประเทศ” ทางตัวเครื่องจะมีตัวอักษรภาษาไทย
และตัวอักษรประเทศนั้น ๆ แสดงขึ้นมา แน่นอนว่า “เสียง” และ “สำเนียง” ที่ออกมาตรงกับชาตินั้น ๆ อย่างแน่นอน
หมดห่วงเรื่องสื่อสารไม่เข้าใจแบบชัวร์ๆ
ที่พิเศษยิ่งกว่าก็คือการกดถ่ายรูปในบริเวณที่เราต้องการจะแปล เช่น แปลเอกสาร
แปลป้ายประจำทาง แปลแชท หรือแปลข้อความอื่น ๆ ได้ด้วยการกดเมนู “ถ่ายรูป” และกดสแกน
ทางตัวเครื่องก็จะมีการแปลภาษาไทยออกมาอัตโนมัติ แต่จะต้องเลือกประเทศของข้อความก่อนนะถึงจะแปลได้
ในการสื่อสารบางครั้งอยากจะสื่อสารแบบเงียบ ๆ ไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ก็สามารถพูดเบา ๆ และใส่หูฟังฟังได้
ยกตัวอย่างเช่น การพูดคุยกันบนรถสาธารณะ เป็นต้น หรือในอีกกรณีหนึ่งก็คือ การสื่อสารกับผู้คนจำนวนมาก
เพื่อให้ได้ยินการสื่อสารแบบครบถ้วน และสามารถเข้าใจได้ตรงกัน ยกตัวอย่างเช่น การพูดคุยกันในที่ประชุม
ซึ่งนับว่าเป็นการเชื่อมต่อกับลำโพงนับเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย
ตัว เครื่องแปลภาษา รุ่นนี้จะสามารถเชื่อมต่อกับบลูทูธได้ โดยการเชื่อมต่อบูลทูธจะมีข้อดีในเรื่องของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
การเชื่อมต่อหูฟังหรือลำโพงไร้สายได้นั่นเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยยกระดับความสะดวกสบายในการสื่อสารได้ดีขึ้นแบบสุด ๆ
เมื่อเราได้รู้เหตุผลหรือเครื่องชนิดนี้สามารถทำอะไรได้บ้างแล้ว แต่ถ้าหากใครยังลังเลใจอยู่
ว่าถ้าซื้อมาแล้วจะเหมาะหรือเปล่า หรือคุ้มหรือเปล่าที่จะซื้อ ขอให้มาดูเลยว่า เจ้า เครื่องแปลภาษา รุ่นนี้เหมาะกับใครบ้าง
1.เหมาะกับผู้ที่รักการท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่สามารถไปได้ทั่วโลกเพราะสื่อสารได้กว่า 108 ภาษา
2.เหมาะกับผู้ที่อยู่อาศัยกับคนต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ หรือแหล่งที่มีคนต่างชาติอาศัยอยู่เยอะ
3.เหมาะกับผู้ที่ไปใช้ชีวิตอยู่ต่างกระเทศ ยกระดับการสื่อสารให้เข้าใจง่าย และแปลข้อความต่าง ๆ ได้ทุกที่
4.เหมาะกับผู้ที่ต้องทำงานกับคนต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ ที่สามารถใช้สื่อสารแบบคนเดียว หรือสื่อสารแบบประชุม
5.เหมาะกับผู้ที่กำลังศึกษาภาษาที่ 3 และต้องการพัฒนาสกิล ที่จะช่วยทำให้การสื่อสารถูกหลักไวยากรณ์ และสามารถแปลเอกสารเพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
1.กดเปิดเครื่องและไปเลือกประเทศปลายทาง หรือคู่สนทนาว่าเป็นคนชาติอะไร โดยตัวอย่างจะขอยกเป็นคนญี่ปุ่น
2.กดปุ่มไมโครโฟนสีฟ้า และพูดเป็นภาษาไทยออกมา ตัวเครื่องก็จะมีการพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นกลับไป
ในส่วนของข้อความเองก็จะขึ้นทั้งข้อความไทย และข้อความของคนญี่ปุ่น
3.ในกรณีที่อยากให้ทางคนญี่ปุ่นพูดกลับมา แล้วแปลกลับมาเป็นไทย ก็สามารถกดปุ่มรูปไมโครโฟนสีแดง
ตัว เครื่องแปลภาษา ก็จะมีการพูดภาษาญี่ปุ่นกลับมา ในส่วนของข้อความเองก็จะขึ้นทั้งข้อความไทย และข้อความของคนญี่ปุ่นเช่นกัน
1.กดเปิดเครื่องแล้วไปที่หน้าเมนู และเลือกหารูปไอคอน “กล้อง”
2.เลือกประเทศต้นทางและปลายทางที่ต้องการจะแปลภาษาอออมา
3.เมื่อเปิด “ถ่ายรูปแล้ว” ให้ทำการเอากล้องไปจ่อบริเวณที่ต้องการแปลภาษา
4.กดปุ่มที่จะถ่ายบริเวณที่หน้าจอได้เลย ภาพในหน้าจอก็จะทำการแปลภาษาออกมาอัตโนมัติ
ต้องบอกเลยว่า เครื่องแปลภาษา รุ่นนี้นับว่ามีความเจ๋งเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะสามารถแปลภาษาได้ 108 ภาษาทั่วโลก
ทำให้การสื่อสารกับคนต่างประเทศไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป และที่สำคัญไม่ต้องกลัวว่าจะพูดผิด หรือพูดถูก
เพราะเครื่องนี้สามารถแก้ไขปัญหาทุกการสื่อสารได้เป็นอย่างดี
แค่นั้นไม่พอยังสามารถที่จะสแกนข้อความที่เป็นประโยชน์อย่างมากในการแปลข้อความต่าง ๆ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องถามเจ้าของภาษาแต่อย่างใด
หน้าที่เข้าชม | 1,384,230 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 836,624 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 มี.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 29 ก.ค. 2568 |